Posted on

สเปค iPhone 5 จอใหญ่ขึ้น 4 นิ้ว ชิป A6 กล้อง 8 ล้านพิกเซล และ iOS 6

สเปค ไอโฟน 5 iPhone 5 จอขนาดใหญ่ขึ้น 4 นิ้ว ชิป A6 กล้อง 8 ล้านพิกเซล และ iOS 6

ด้านบนนี้ก็คือ ไอโฟน 5 iPhone 5 อย่างเป็นทางการ ที่มีข้อมูล ทั้งในเรื่องของ สเปค ไอโฟน 5 iPhone 5 และการออกแบบ ไอโฟน 5 iPhone 5 ตรงกับข่าวก่อนหน้าทุกประการครับ แม้ว่า ไอโฟน 5 iPhone 5 จะมีการออกแบบที่คล้ายๆ เดิม เหมือน iPhone 4S และ iPhone 4 ก็ตาม แต่ตัวบอดี้ ไอโฟน 5 iPhone 5 นั้น มีความบางลงกว่ารุ่นก่อน และหน้าจอยาวขึ้นครับ

มาดูบทความ สรุปข้อมูล ไอโฟน 5 iPhone 5 พร้อมฟีเจอร์เด่นบน ไอโฟน 5 iPhone 5 กันว่า มีความโดดเด่นในด้านใดบ้าง ไอโฟน 5 iPhone 5 ดีกว่า iPhone 4S ตรงไหน มาดูพร้อมๆ กันเลยครับ

iPhone 5 กับหน้าจอที่ยาวขึ้น

อย่างที่เกริ่นไปในตอนต้นว่า ถึงแม้ ไอโฟน 5 iPhone 5 จะมีบอดี้ที่คล้ายกับ iPhone 4S แต่เมื่อเจาะลึกแล้ว จะพบว่า ไอโฟน 5 iPhone 5 นั้น มีตัวเครื่องที่ยาวกว่า บางกว่า และน้ำหนักเบากว่า โดย ไอโฟน 5 iPhone 5 นั้น มีความบางเพียง 7.6 มิลลิเมตร (iPhone 4S หนา 9.3 มิลลิเมตร) ซึ่งบางกว่า iPhone 4S 18% ครับ ส่วนน้ำหนัก ไอโฟน 5 iPhone 5 อยู่ที่ 112 กรัม เบากว่า iPhone 4S 20%

iPhone 5 กับกรอบด้านหลังแบบ Two-tone ให้ความรู้สึกที่ดูสวยงาม

มาดูกันที่ส่วนประกอบด้านหลังกันบ้าง จะเห็นว่า กรอบด้านหลัง ไอโฟน 5 iPhone 5 มีการออกแบบที่เปลี่ยนไป โดยทำมาจาก anodized aluminium ซึ่งเป็นวัสดุเดียวกับ MacBook นั่นเอง ส่วนด้านบน และด้านล่างนั้น สำหรับเครื่อง ไอโฟน 5 iPhone 5 สีขาว ทำมาจาก ceramic glass ส่วน ไอโฟน 5 iPhone 5 สีดำ ทำมาจาก pigmented glass ครับ (ซึ่งจุดนี้ ผมยังไม่ทราบว่า ทั้ง 2 วัสดุนี้ ต่างกันอย่างไร)

นอกจากนี้ Apple ยังได้ระบุว่า วัสดุที่มาผลิต ไอโฟน 5 iPhone 5 อย่าง anodized aluminium เป็นวัสดุแบบบรีไซเคิล และไม่เป็นอันตรายต่อธรรมชาติ โดยยึดหลักมาตรฐาน BFR-free และ PVC-free ที่ทาง Apple มั่นใจว่า ไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อมอย่างแน่นอน

** กฏหมายของต่างประเทศจะค่อนข้างให้ความสำคัญเรื่องการผลิตโดยใช้วัสดุที่เป็น อันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ก่อนหน้านั้น Apple เคยมีปัญหากับ EPEAT หรือองค์กรที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานสิ่งแวดล้อม และเคยถอนตัวจาก EPEAT ทำให้เกิดการต่อต้านจากผู้ใช้งาน ถึงขนาดที่ว่า จะไม่ซื้อสินค้าของ Apple อีกต่อไป ทำให้ Apple เองต้องตัดสินใจกลับเข้าสู่กระบวนการของ EPEAT อีกครั้ง ซึ่งจะต้องส่งวัสดุให้ตรวจสอบด้วยว่า ผ่านมาตรฐานด้วยหรือไม่

ไมโครโฟนบน ไอโฟน 5 iPhone 5 มีทั้งหมด 3 จุดครับ คือ ด้านบน ด้านล่าง และด้านหลัง ระหว่างเลนส์กล้องกับไฟแฟลช ส่วนลำโพงสำหรับสนทนาในด้านบนนั้น ยังเป็นแบบตัดเสียงรบกวนจากภายนอกอีกด้วย

iPhone 5 กับหน้าจอใหม่ขนาด 4 นิ้วแบบ Retina display ไม่ใช่แค่จอใหญ่ขึ้น แต่ชัดขึ้นด้วย

มากันที่หน้าจอกันบ้างครับ ไอโฟน 5 iPhone 5 นั้น มีหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้น จากเดิม 3.5 นิ้ว เป็น 4 นิ้ว แบบ Retina display ความละเอียด 640 x 1136 พิกเซล ส่วนความหนาแน่นพิกเซลต่อนิ้วนั้น อยู่ที่ 326 ppi ครับ นอกจากนี้ หน้าจอของ ไอโฟน 5 iPhone 5นั้น ยังใช้เทคโนโลยีแบบใหม่ ที่มีชื่อว่า Touch technology โดย รวมเลเยอร์ของหน้าจอ และระบบสัมผัส ไว้ในเลเยอร์เดียวกันครับ ซึ่ง Touch technology นั้น นอกจากจะทำให้หน้าจอบางลงแล้ว ยังช่วยทำให้สีสันของหน้าจอ ชัดขึ้นอีกด้วย

ส่วนไอคอนบนหน้าจอ เป็นแบบ 5 แถวครับ และไม่มีไอคอนของ YouTube อีกต่อไปครับ

ชิปเซ็ท Apple A6 ประมวลผลเร็วกว่าเดิม 2 เท่า

นอกจากหน้าจอ ไอโฟน 5 iPhone 5 จะมีขนาดใหญ่ขึ้นแล้ว ในส่วนของระบบประมวลนั้น ยังเร็วขึ้นกว่าเดิมเท่าตัวเลยทีเดียวครับ โดย ไอโฟน 5 iPhone 5 นั้น ใช้ชิปเซ็ท Apple A6 ที่มีขนาดเล็กกว่า Apple A5 ถึง 22% แต่ช่วยทำให้การประมวลผลเร็วขึ้นกว่า ชิปเซ็ท Apple A5 ถึง 2 เท่าเลยทีเดียว นอกจากนี้ ไม่เพียงแค่ซีพียู จะเร็วขึ้นเท่าตัวแล้ว ระบบประมวลผลภาพกราฟฟิค ยังเร็วขึ้นกว่าเดิม 2 เท่าอีกด้วยครับ

กล้อง iSight ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมโหมดการถ่ายภาพแบบ Panorama

น่าเสียดายที่ความละเอียดของกล้องบน ไอโฟน 5 iPhone 5 นั้น ไม่ได้มีความละเอียดสูงถึง 12 ล้านพิกเซล ตามข่าวลือ แต่กลับมีความละเอียดเท่าเดิมที่ 8 ล้านพิกเซลครับ โดยพื้นผิวที่ครอบอยู่บนตัวเลนส์นั้น เป็น Sapphire Crystal ซึ่งมีความแข็งแรงเป็นอันดับ 2 รองจากเพชร ฉะนั้น ใครที่กลัวว่า เลนส์ด้านหลังจะเป็นรอยง่าย ให้หมดกังวลในจุดนี้ไปได้เลย

นอกจากนี้ กล้องบน ไอโฟน 5 iPhone 5 นั้น ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ นั่นก็คือ ความสามารถในการถ่ายภาพแบบพาโนราม่าได้นั่นเอง ซึ่งสามารถถ่ายได้สูงสุด 240 องศา และความละเอียดของภาพสูงสุดอยู่ที่ 28 ล้านพิกเซลครับ

ไม่เพียงแค่กล้อง iSight บน ไอโฟน 5 iPhone 5จะสามารถถ่ายภาพแบบพาโนราม่าได้แล้ว ยังชัตเตอร์ได้เร็วขึ้น 40% และปรับปรุงประสิทธิภาพในการถ่ายภาพในที่แสงน้อย (Low light) ได้ดีขึ้น และลด noise ของภาพอีกด้วย

ตัวอย่างภาพจากกล้อง ไอโฟน 5 iPhone 5 ครับ

** คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่ขึ้น
** สามารถชมภาพอื่นๆ เพิ่มเติมได้ ที่นี่

สำหรับการบันทึกภาพเคลื่อนไหวนั้น กล้องด้านหลัง มีความละเอียดสูงสุดที่ 1080p มีฟีเจอร์ลดการสั่นของภาพ มีระบบ Face detection และสามารถถ่ายภาพนิ่ง ไปพร้อมๆ กับการบันทึกวิดีโอได้ ส่วนกล้องด้านหน้า FaceTime นั้น ความละเอียดสูงสุดที่ 720p สามารถใช้งานผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือได้ครับ

Dock connector ขนาดเล็กลงเหลือ 8-pin เปิดตัว Lightning to 30-pin Adapter หัวแปลงพอร์ตสำหรับ ไอโฟน 5 (iPhone 5)

เนื่องจากตัวเครื่อง ไอโฟน 5 iPhone 5 มีขนาดบางลงกว่าเดิม ทำให้พอร์ตการเชื่อมต่อในส่วนอื่นๆ สามารถปรับขนาดให้เล็กลงตามลงมาด้วย อย่างแรกก็คือ ช่อง Dock connector สำหรับชาร์ตแบตเตอรี่ และถ่ายโอนข้อมูลครับ ได้มีการปรับขนาดลง จากเดิม 30-pin เหลือแค่ 8-pin เท่านั้น ซึ่งสาย data cable นั้น มีชื่อเรียกว่า Lightning connector และเล็กกว่า connector แบบเก่าถึง 80% เลยทีเดียว

Lightning to 30-pin Adapter

ส่วนใครที่ใช้ Dock connector แบบเดิมนั้น ไม่ต้องเสียใจ หรือโยนทิ้งไปนะครับ เพราะว่า Apple ได้เปิดตัว Adapter หรือหัวแปลง 30-pin (Lightning to 30-pin Adapter) สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมกับ ไอโฟน 5 iPhone 5 แต่อุปกรณ์ตัวนี้ ขายแยกนะครับ ไม่ได้มีแถมมาให้ในกล่อง ตกอันละ $29 หรือประมาณ 900 บาท

นอกจากนี้ ช่องเสียบหูฟัง ยังย้ายจากด้านบนตัวเครื่อง มาอยู่ด้านล่างตัวเครื่องอีกด้วยครับ

ไอโฟน 5 (iPhone 5) รองรับเครือข่าย 4G LTE แล้ว

เป็นฟีเจอร์ที่มาช้ากว่าคู่แข่งมากเหลือเกิน กับการรองรับเครือข่าย 4G LTE ที่เพิ่งมีบน ไอโฟน 5 iPhone 5 เป็นรุ่นแรก นอกจากนี้ Apple ยังได้เผยว่า ไอโฟน 5 iPhone 5 นั้น รองรับเครือข่าย 4G LTE ทั่วโลกครับ ทั้ง HSPA, HSPA+ และ DC-HSDPA ซึ่งใช้ชิปแบบ Single chip ทั้งในส่วนของ Voice และ data ครับ สามารถรองรับเครือข่ายได้ทั้งในสหรัฐอเมริกา แคนาดา เอเชีย (บางประเทศ) ออสเตรเลีย และยุโรป

ส่วนระบบ Wi-Fi นั้น เป็นแบบ Dual-channel 2.4 และ 5GHz ให้ความเร็วสูงสุดที่ 150Mbps ครับ

มาดูกันที่แบตเตอรี่กันบ้างครับ แม้ว่า ไอโฟน 5 iPhone 5 นั้น จะใช้ซีพียูแบบ Quad-core Processor และรองรับเครือข่าย 4G LTE ซึ่งทั้ง 2 ฟังก์ชั่นนี้ ถือว่า เป็นส่วนที่ทำให้แบตเตอรี่ลดลงอย่างรวดเร็ว แต่ Apple สามารถทำให้ ไอโฟน 5 iPhone 5 รองรับการใช้งานได้สูงสุด 8 ชั่วโมงเลยทีเดียว

ไอโฟน 5 (iPhone 5) ใช้ nano-SIM card แทน micro-SIM card

ตามคาดครับ กับการเปลี่ยนขนาดของซิมการ์ดใหม่ เพื่อให้รองรับกับตัวเครื่องที่บางลง โดย ไอโฟน 5 iPhone 5 ใช้ nano-SIM card ที่เล็กลงกว่าเดิมถึง 44% ซึ่งช่วยทำให้ประหยัดเนื้อที่ภายในตัวเครื่องอีกด้วยครับ

EarPods หูฟังแบบใหม่

สำหรับ EarPods นั้น ได้ถูกออกแบบใหม่ให้เข้ากับหูของเราได้ทุกสภาพ และทุกรูปแบบครับ โดย Apple ให้เหตุผลว่า ปกติแล้ว หูของคนเรา มักจะมีลักษณะที่ไม่เหมือนกัน คล้ายกับลายนิ้วมือที่ต้องเป็นของใครของมัน ฉะนั้น จึงได้พยายามหาวิธีการผลิตหูฟังแบบใหม่ ที่สามารถเข้ากับหูได้ทุกคนครับ ซึ่ง Apple ได้ทำการทดสอบ หูฟัง EarPods รุ่นต้นแบบ กับหูของผู้ทำการทดสอบกว่า 1,000 คน พบว่า สามารถใส่ได้พอดี ไม่เลื่อนหลุด และ ยังได้คุณภาพของเสียงที่เท่ากันอีกด้วย

นอกจากนี้ หูฟัง EarPods นั้น ยังได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ทนทานต่อทุกการใช้งานครับ แถมยังมีคุณสมบัติในการป้องกันเหงื่อและน้ำได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่ง Apple รับประกันว่า ไม่ว่าจะเคลื่อนไหวไปในท่าไหน หูฟัง EarPods ก็ไม่หลุดอย่างแน่นอนครับ

iphone 5 เปรียบเทียบกับ iPhone 4s รูปลักษณ์เหมือนหรือต่างกันอย่างไร ?

เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้เห็นภาพความเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เราจึงสรุปข้อมูลเปรียบเทียบ ระหว่าง ไอโฟน 5 iPhone 5 กับ ไอโฟน 4S iPhone 4S ให้ดูในแบบตารางง่ายๆ กันว่าแตกต่างกันอย่างไรบ้างครับ

เปรียบเทียบรูปลักษณ์ภายนอก และการออกแบบ
ระหว่าง ไอโฟน 5 (iPhone 5) กับ ไอโฟน 4S (iPhone 4S)
การออกแบบ และดีไซน์ภายนอก
ไอโฟน 5 iPhone 5
ไอโฟน 4S iPhone 4S
– มีปุ่ม Home
– กล้องด้านหน้า ย้ายไปอยู่ด้านบนของลำโพงสนทนา
– หน้าจอมีขนาดใหญ่ขึ้น ประมาณ 4.08 นิ้ว
– วัสดุด้านหน้า และด้านหลัง เป็น anodized aluminium ซึ่งเป็นวัสดุเดียวกับ MacBook
– กรอบด้านหลัง มีลักษณะเป็น 2 โทน หรือ two-tone ซึ่งด้านบนและด้านล่างตัวเครื่องนั้น สำหรับเครื่อง ไอโฟน 5 iPhone 5 สีขาว ทำมาจาก ceramic glass ส่วน ไอโฟน 5 iPhone 5 สีดำ ทำมาจาก pigmented glass
– มีไมโครโฟน มีทั้งหมด 3 จุดคือ ด้านบน ด้านล่าง และด้านหลัง ระหว่าง เลนส์กล้อง และ ไฟแฟลช ช่วยทำให้การบันทึกเสียง ขณะถ่ายวิดีโอ ชัดเจนขึ้น
– ปุ่มควบคุมการทำงานด้านซ้าย ยังคงเหมือนเดิม
– มีขีดเสาสัญญาณด้านข้างตัวเครื่อง เหมือน ไอโฟน 4S iPhone 4S
– มีปุ่ม Home
– กล้องด้านหน้า อยู่ด้านซ้ายของลำโพงสนทนา
– ขนาดหน้าจออยู่ที่ 3.5 นิ้ว
– วัสดุด้านหน้า เป็นกระจก
– กรอบด้านหลัง เป็นกระจกทั้งหมด
– ด้านหลังตัวเครื่อง มีเพียงแค่กล้อง และไฟแฟลช
– มีขีดเสาสัญญาณ ข้างละ 2 ขีด
พอร์ตการเชื่อมต่อ
ไอโฟน 5 iPhone 5
ไอโฟน 4S iPhone 4S
– Dock connector มีขนาดเล็กลง จาก 30-pin เหลือ 8-pin เพื่อช่วยลดพื้นที่ และทำให้ตัวเครื่องบางลงได้
– ช่องเสีียบหูฟัง ย้ายจากด้านบน มาอยู่ด้านล่าง
– ไมโครโฟน และลำโพงด้านล่าง มีการออกแบบที่เปลี่ยนไป
– Dock connector มีขนาด 30-pin ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานที่ใช้บน iPhone, iPod และ iPad
– ช่องเสียบหูฟัง อยู่ด้านบนของตัวเครื่อง ซึ่ง iPhone รุ่นก่อนหน้า, iPod Touch และ iPad ก็อยู่ด้านบนเช่นเดียวกัน
ความบางของตัวเครื่อง
ไอโฟน 5 iPhone 5
ไอโฟน 4S iPhone 4S
ประมาณ 7.6 มิลลิเมตร
9.3 มิลลิเมตร

 

iPhone 5 มาพร้อมกับ iOS 6

และก็เป็นไปตามคาดครับ กับระบบปฎิบัติการ ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่มาพร้อมการเปิดตัว iPhone ทุกปี และแน่นอนว่า ไอโฟน 5 iPhone 5 ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 6 อย่างแน่นอนแล้ว ซึ่งถ้าใครได้ดูงานเปิดตัว iOS 6 ที่ผ่านมาคงต้องบอกว่าน่าใช้งานมากครับ เรามาสรุปความสามารถของระบบปฏิบัติการ iOS 6 ที่จะถูกใช้บน ไอโฟน 5 iPhone 5 กันคร่าวๆ ได้ดังนี้ครับ

– เพิ่มความสามารถให้กับ Siri ให้รองรับคำสั่งเพิ่มมากขึ้น
– เปลี่ยนจาก Google Maps มาใช้ Apple Maps แทน
– สามารถใช้งาน FaceTime ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือได้แล้ว
– เพิ่มแอพพลิเคชั่น Passbook แหล่งรวม boarding pass, การ์ดของขวัญ และคูปองส่วนลด ในที่เดียว
– ในส่วนของอีเมล ได้เพิ่ม VIP list สำหรับรวมอีเมลที่สำคัญ เช่น อีเมลจากที่ทำงาน ที่บ้าน คุณพ่อคุณแม่

สำหรับฟีเจอร์บน iOS 6 แบบเต็มๆ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่ ครับ

สรุปเปรียบเทียบสเปค ไอโฟน 5 iPhone 5 และ ไอโฟน 4S iPhone 4S

จากข้อมูลทั้งหมดนี้ เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น ลองมาดูกันว่า ถ้าหากเปรียบเทียบคุณสมบัติ หรือสเปค ไอโฟน 5 iPhone 5 กับ ไอโฟน 4S iPhone 4S แล้ว จะมีความแตกต่างมากน้อยขนาดไหน และสเปค ไอโฟน 5 iPhone 5 ในจุดใดบ้าง ที่ดูโดดเด่นกว่า ไอโฟน 4S iPhone 4S ในรูปแบบของตารางครับ

เปรียบเทียบสเปค ไอโฟน 5 iPhone 5 และ ไอโฟน 4S iPhone 4S
รุ่น
ไอโฟน 5 iPhone 5
ไอโฟน 4S iPhone 4S
เครือข่าย 2G
850/900/1800/1900 MHz
850/900/1800/1900 MHz
เครือข่าย 3G
850/900/1900/2100 MHz
850/900/1900/2100 MHz
เครือข่าย 4G / LTE / CDMA
รองรับ
ไม่รองรับ
ขนาดตัวเครื่อง
123.8 x 58.6 x 7.6 มม.
115.2 x 58.6 x 9.3 มม.
จอแสดงผล
กว้าง 4 นิ้ว แบบ Retina Display
(326ppi)
กว้าง 3.5 นิ้ว แบบ Retina Display
(326ppi)
ความละเอียดของหน้าจอ
1136 x 640 พิกเซล
960 x 640 พิกเซล
ซีพียู
ยังไม่มีข้อมูล
Dual-core Processor
ชิปเซ็ท
Apple A6
Apple A5
ระบบปฏิบัติการ
iOS 6
iOS 5
RAM
ยังไม่มีข้อมูล
512 MB
หน่วยความจำภายใน
16 GB หรือ 32 GB หรือ 64 GB
16 GB หรือ 32 GB หรือ 64 GB
กล้องด้านหน้า
ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล
VGA
กล้องด้านหลัง
ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล + LED Flash
ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล + LED Flash
NFC
ไม่รองรับ
ไม่รองรับ
Wi-Fi
Wi-Fi 802.11 b/g/n (2.4GHz และ 5GHz)
Wi-Fi 802.11 b/g/n (2.4GHz)
Bluetooth
Bluetooth เวอร์ชั่น 4.0
Bluetooth เวอร์ชั่น 4.0
SIM card
Nano-SIM card
Micro-SIM card
แบตเตอรี่
รองรับการใช้งาน 8 ชั่วโมง
รองรับการใช้งาน 8 ชั่วโมง

จากตารางข้างต้น สิ่งที่เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดคือ ซีพียู หรือระบบประมวลผลนั่นเอง โดยได้เปลี่ยนจากซีพียูแบบ Dual-core Processor มาเป็นซีพียูแบบ Quad-core Processor ครับ ส่วนขนาดหน้าจอนั้น ได้เปลี่ยนจาก 3.5 นิ้ว มาเป็น 4 นิ้ว และปรับความละเอียดอีกเล็กน้อย แม้ว่า Apple จะไม่เน้นสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในตลาดสมาร์ทโฟนขณะนี้ แต่เชื่อว่า ขนาดหน้าจอ 4 นิ้ว คงเป็นสิ่งที่ทาง Apple วิเคราะห์มาเป็นอย่างดีแล้วครับว่า เหมาะสมที่สุด

iPhone 5 เปิดให้จอง 14 กันยายน เริ่มวางขาย 21 กันยายน 2012

ยังคงเป็นข้อมูลที่ไม่คลาดเคลื่อนไปจากเดิมครับ กับวันเปิดให้จอง ไอโฟน 5 iPhone 5 และวันวางจำหน่าย ไอโฟน 5 iPhone 5 ที่จะเปิดให้จอง ในวันศุกร์ที่ 14 กันยายนนี้ และเปิดจำหน่าย ไอโฟน 5 iPhone 5 อย่างเป็นทางการในรอบแรก วันที่ 21 กันยายน ใน 9 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ฮ่องกง และสิงคโปร์ ซึ่งจะเห็นได้ว่า การเปิดจำหน่าย ไอโฟน 5 iPhone 5 ในรอบแรกนี้ มีประเทศในแถบเอเชียถึง 3 ประเทศด้วยกัน ซึ่งไม่ต้องแปลกใจครับว่า ไอโฟน 5 iPhone 5 เครื่องหิ้ว เข้าไทยเร็วอย่างแน่นอน

สำหรับการเปิดจำหน่าย ไอโฟน 5 iPhone 5 ในรอบที่ 2 คือวันที่ 28 กันยายนครับ มีทั้งหมด 22 ประเทศด้วยกัน ได้แก่ ออสเตรีย เบลเยี่ยม สาธารณเช็ก เดนมาร์ค เอสโทเนีย ฟินแลนด์ ฮังการี ไอร์แลนด์ อิตาลี ลิกเตนสไตน์ ลิทัวเนีย ลักเซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ โปแลนด์ โปรตุเกส สโลวาเกีย สโลเวเนีย สเปน สวีเดน และสวิตเซอร์แลนด์

และในเดือนธันวาคม ไอโฟน 5 iPhone 5 จะเปิดจำหน่ายครบ 100 ประเทศ 240 เครือข่าย แน่นอนครับว่า ใน 100 ประเทศนี้ มีรายชื่อของประเทศไทยอยู่ด้วยอย่างแน่นอน ฉะนั้น เราคงต้องเดากันแล้วว่า ช่วงเดือนตุลาคม – ธันวาคมนี้ ไอโฟน 5 iPhone 5 น่าจะจำหน่ายในประเทศไทยช่วงเดือนอะไรกันแน่ ซึ่งผมเดาว่า น่าจะเป็นเดือนตุลาคมครับ แต่จะเป็นต้นเดือน กลางเดือน หรือปลายเดือนนั้น เร็วๆ นี้คงจะได้ทราบกันอย่างแน่นอน

ขอขอบคุณ – Techmoblog.com-
link: http://www.techmoblog.com/iphone-5/?pos=bottom

[php function=1]

 

แชร์เรื่องนี้ให้เพื่อน!

 

สินค้าแนะนำ


ดูสินค้าทั้งหมด...

 

 

3 thoughts on “สเปค iPhone 5 จอใหญ่ขึ้น 4 นิ้ว ชิป A6 กล้อง 8 ล้านพิกเซล และ iOS 6

  1. น่าสนใจมาก! สเปคของ iPhone 5 ดูดีขึ้นจริง ๆ โดยเฉพาะจอที่ใหญ่ขึ้นกับกล้อง 8 ล้านพิกเซล ส่วน iOS 6 นี่ก็น่าจะมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ ถ้าได้ลองใช้งานจริงจะเป็นยังไงบ้างนะ?

  2. โอ้ มันน่าสนใจมากเลยครับ! จอใหญ่ขึ้นและชิป A6 ดูเหมือนจะช่วยให้การใช้งานลื่นไหลขึ้นแน่นอน ส่วนกล้อง 8 ล้านพิกเซลก็ดีมาก ๆ ครับ น่าลองใช้จริง ๆ!

  3. เยี่ยมครับข้อมูล

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *